ราคาอาหารทะเลตลาดไท ปรับตัวสูงขึ้น หลังเรือประมงที่ไม่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายหยุดออกหาปลา คาดอาหารทะเลน้อยลง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2558 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวจากกรณีที่รัฐบาลออกมาตรการโดยให้ชาวประมงนำเรือและเครื่องมือมาขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาที่สหภาพยุโรป (อียู) ได้ประกาศเตือนทางการไทย เกี่ยวกับการกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ทำให้เรือประมงที่ไม่ขึ้นทะเบียนซึ่งมีจำนวนมากเริ่มหยุดทำประมงตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกันทางภาครัฐ ได้ให้ข้อมูลว่า ยังมีเรือประมงที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายออกทำประมงได้ปกติ ก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกัน ซึ่งปัญหาดังกล่าว อาจส่งผลให้ราคาอาหารทะเลปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกของตลาด
ทั้งนี้เมื่อสำรวจราคาอาหารทะเลที่ตลาดไท ถ.พหลโยธิน ขาเข้า ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบว่า ปลาหมึกศอกและปลาหมึกกล้วย เวลานี้ได้ขึ้นราคามาประมาณ 30-40 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมที่ขายอยู่กิโลกรัมละ 120-140 บาท ช่วงนี้ขึ้นราคามาอยู่ที่ 175-180 บาท และราคากุ้งทะเลก็ขยับตามขึ้นไป 10-20 บาท เนื่องจากมีของน้อยเพราะเรือประมงไม่ได้ออกไปหาปลา
ขณะที่เจ้าของแผงขายปลาร้านหนึ่ง กล่าวว่า ขณะนี้ปลาทะเลบางอย่างได้ขาดตลาดแล้ว ของทะเลที่มาส่งให้แม่ค้าที่ตลาดไทจะมาจากแพปลามหาชัยเป็นส่วนใหญ่ และคาดว่าในวันนี้ (3 กรกฎาคม) แพปลาทั้งหมดคงจะปิดแพ เพราะไม่มีเรือนำปลามาส่งให้และจะทำให้อาหารทะเลมีผลกระทบต่อผู้บริโภค
ด้านนายสุวพรรณ มลิลา พาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร หลังจากลงพื้นที่ตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร ตรวจสอบการขายอาหารทะเลที่ภาคประมงมีปัญหา พบว่า แต่ละร้านมีการปรับขึ้นอาหารทะเลหลายรายการ โดยเฉพาะปลายอดนิยม เช่น ปลากะพง, ปลาเต๋าเต้ย, ปลาอินทรี และปลาจาระเม็ด ที่ปรับราคาขึ้นมาเกือบถึง 100 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งขณะนี้เชื่อว่าอาหารทะเลยังมีปริมาณเพียงพอต่อผู้บริโภคแต่อาจมีราคาปรับสูงขึ้นกว่าเดิมตามกลไกของตลาด เมื่อความต้องการสูงขึ้นราคาก็ต้องสูงขึ้นไปด้วย
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
