10 เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เจ้านายควรมี แล้วลูกน้องจะแฮปปี้มาก และหากคุณเป็นผู้บริหารหรือเจ้าคนนายคนก็ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
หัวหน้างานหรือเจ้านายเป็นปัจจัยสำคัญมาก ๆ กับคำว่า “หน้าที่การงานที่ดี” เพราะหากเป็นแค่งานที่ทำเงินได้สูง แต่พ่วงมาด้วยเจ้านายที่เอาแต่ใจ ไร้เหตุผล อีกทั้งยังลำเอียงเป็นที่หนึ่ง เจอแบบนี้แม้เงินเดือนจะขึ้นทุกปี ทว่าเหล่ามนุษย์เงินเดือนก็อาจจะยอมโบกมือลาได้เหมือนกัน เอ้า ! ในเมื่อการรับสมัครพนักงานเข้ามาใหม่ไม่ใช่เรื่องน่าสนุก ฉะนั้นบรรดาเจ้าคนนายคนมาดูสิคะว่า การจะเป็นเจ้านายดีมีลูกน้องรัก เราควรทำยังไงบ้าง ซึ่งตามที่ 6Q แนะนำมา ก็ไม่น่าจะทำยากสักเท่าไรนะ
1. อย่าลืมแสดงความขอบคุณตอบกลับอีเมลงานของลูกน้องด้วยคำว่าขอบคุณ หรือแสดงความขอบคุณกับสิ่งที่เขาเหล่านั้นทำให้ด้วยอาหารสักมื้อ หรือนัดมีตติ้งนอกสถานที่ให้สุดเหวี่ยงสักวัน แค่นี้ลูกน้องก็เทใจให้คุณหมดหน้าตักแล้ว
2. สร้างสัมพันธ์อันดีกับลูกน้องอย่าลืมว่าทีมเวิร์กที่ดีควรมีความสามัคคีในหมู่คนทำงานด้วยกัน และการจะได้มาซึ่งสิ่งนี้เราจำเป็นต้องสร้างสัมพันธ์อันดีร่วมกันก่อน โดยเฉพาะเมื่อเข้ามานั่งในตำแหน่งหัวหน้างานหรือเจ้านายของคนหมู่มาก คุณจำเป็นต้องมีทักษะในการทำความเข้าใจในความแตกต่างของลูกน้องแต่ละคน อีกทั้งความใจเย็นก็ควรพกติดตัวไว้ตลอด อ้อ ! ที่สำคัญควรเป็นคนมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ด้วย เวลาลูกน้องทำในสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจจะได้หาเหตุผลมาดับอารมณ์อยากวีนของตัวเองได้
3. ซื้อใจหัวหน้าแผนก ไม่มีทางเลยที่คุณจะเข้าไปดูแลการทำงานของพนักงานได้ทุกคนทุกเวลา ทว่าสิ่งที่ผู้บริหารทำได้ก็คือ มอบหมายความรับผิดชอบนี้ให้กับหัวหน้าแผนกต่าง ๆ ดังนั้นซื้อใจเขาด้วยการสร้างความสนิทสนมและลดช่องว่างทุกอย่างในระดับที่พอดี คุณจะได้มีคนคอยช่วยเป็นหูเป็นตาอีกทาง
4. เนี้ยบบ้างปล่อยบ้างโปรดจงเข้าใจว่าไม่มีใครในโลกทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้แต่คุณเองที่อาจจะเป็นเจ้าของกิจการก็คงอยากหลบไปพักแบบที่ลืม ๆ ไปเลยว่าตัวเองมีอะไรต้องรับผิดชอบบ้าง พนักงานของคุณเองก็เช่นกันค่ะ ปล่อยให้เขาได้มีอิสระและช่วงเวลาชิล ๆ สลับกับเข้มงวดกับงานเป็นพัก ๆ โดยเฉพาะนอกเวลางานอย่าตามจิกลูกน้องเด็ดขาด (ถ้าเป็นไปได้อ่ะนะ) แล้วลูกน้องจะรักคุณขึ้นอีกเยอะ นอกจากนี้ทุก ๆ ฝ่ายก็จะทำงานร่วมกันได้อย่างสบายใจขึ้นด้วยนะ
5. สร้างความเชื่อมั่นในสถานภาพการเงินและความมั่นคงขององค์กรต้องยอมรับว่าพนักงานทุกคนหวังผลในค่าตอบแทนที่เขาควรจะได้รับด้วยกันทั้งนั้น และจะดีมากหากองค์กรสามารถแสดงศักยภาพด้านการเงินและความมั่นคงของตัวเองให้พนักงานร่วมรับรู้ได้ โดยวิธีง่าย ๆ ก็คือ การขึ้นเงินเดือนและการจ่ายโบนัสประจำปี ซึ่งวิธีนี้ไม่เพียงแต่สร้างขวัญกำลังใจให้คนทำงานเท่านั้น ทว่าคุณเองสามารถใช้โอกาสนี้ย้ำกับพนักงานในเรื่องความร่วมมือร่วมใจช่วยกันพัฒนาองค์กร หยอดคำหวานไปหน่อยก็ได้ว่าปีหน้าอาจจ่ายโบนัสให้หนักกว่านี้
6. สนับสนุนให้พนักงานพัฒนาศักยภาพพนักงานจะรู้สึกดีหากบริษัทเล็งเห็นถึงความก้าวหน้าของเหล่าพนักงานทุกคนด้วยการส่งไปอบรมหลักสูตรที่เป็นประโยชน์ หรือมีนโยบายสนับสนุนให้พนักงานเรียนต่อพร้อมกับทำงานไปด้วยได้ ถ้าทำได้อย่างนี้เชื่อสิว่าใครก็อยากมาเป็นลูกน้องของคุณ
7. มีความชัดเจนคงไม่มีใครอยากทำงานในองค์กรที่มีแววระส่ำระสายเหลือเกิน หรือต้องคอยระแวงตลอดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจนถูกเลื่อยขาเก้าอี้เกิดขึ้นเมื่อไร ดังนั้นหัวหน้างานหรือเจ้าของบริษัทควรมีความชัดเจนในแนวทางขับเคลื่อนองค์กร โดยอาจจะสร้างธรรมเนียมประชุมประจำสัปดาห์เพื่อชี้แจงความเป็นไปของบริษัทให้ลูกน้องได้ทราบบ้างก็จะดี
8. มอบผลตอบแทนงาม ๆ ตามสมควรเข้าใจว่าผลประกอบการของบริษัทมีความผันผวนตามสภาพทางเศรษฐกิจ ทว่าเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ไม่เข้าใครออกใคร ฉะนั้นหากคุณเลี้ยงพนักงานได้ไม่สมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่เขาทำให้บริษัท พนักงานเหล่านั้นอาจตีจากคุณไปซบอกเจ้านายคนใหม่ ซึ่งหากจะให้แนะนำก็ต้องบอกว่า คนเป็นผู้บริหารควรพิจารณาผลงานของลูกน้องตามสภาพความเป็นจริง ใครทำดีก็ได้ผลตอบแทนที่ดีไป ส่วนคนไหนไม่เอาอ่าวจะเลี้ยงไว้หรือจำหน่ายออกอันนี้ก็อีกเรื่อง
9. ใส่ใจและเข้าใจ ศักยภาพของพนักงานแต่ละคนมีไม่เท่ากัน เช่นเดียวกับหน้างานแต่ละงานก็มีความยากง่ายที่ไม่เหมือนกันด้วยฉะนั้นหากคุณใช้คนให้ถูกกับงาน เรื่องยากจะเป็นเรื่องง่าย หรือถ้ามีกรณีที่งานช้างงานยากจริง ๆ เข้ามาท้าทาย ผู้บริหารเองก็ต้องทำความเข้าใจและให้เวลากับพนักงานในการทำงานด้วย ไม่ใช่บีบคั้นจะเอาแต่งานโดยที่ไม่ใส่ใจเลยว่าพนักงานจะเป็นจะตายยังไง
10. สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานสภาพแวดล้อมและบรรยากาศในการทำงานก็นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะคงไม่มีใครอยากนั่งทำงานในที่ที่ไร้ความเป็นระเบียบ ความสวยงามก็ไม่มี อีกทั้งบรรยากาศเวลาที่เจ้านายเข้าออฟฟิศยังอึมครึมเหมือนพายุกำลังมาอีกต่างหาก ดังนั้นผู้บริหารเองควรเป็นตัวตั้งตัวตีในการบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมของบริษัทให้เจริญหูเจริญตา สิ่งอำนวยความสะดวกและสวัสดิการอื่น ๆ ก็อย่าให้ขาดตกบกพร่อง เพียงแค่นี้พนักงานก็น่าจะมองเห็นถึงความห่วงใยของคุณแล้วล่ะค่ะ
อ๊ะ ๆ เหล่าพนักงานที่แอบเข้ามาอ่านรู้สึกเห็นด้วยไหมคะ หรือทางฝ่ายผู้บริหารจะมีสิ่งที่อยากพูดบ้างหรือเปล่า แต่อย่างไรก็ดี การทำงานร่วมกันไม่ว่าจะในฐานะเจ้านายหรือลูกน้อง หากเรามองข้ามเรื่องธุรกิจและตัวเงิน แต่หันมาใส่ใจกันในฐานะของคนเป็นเพื่อน หรือครอบครัวเดียวกัน การทำงานก็น่าจะราบรื่นและเป็นไปด้วยดีเนอะ
ติดตามข่าวเศรษฐกิจ การเงิน ภาษี สินเชื่อ บทความการเงินน่ารู้มากมาย
