กระทรวงการคลังสั่งสรรพากรเข้มงวดการเก็บภาษี บริษัท-บุคคลธรรมดา ให้รัดกุมขึ้น ป้องกันไม่ให้เก็บภาษีต่ำกว่าเป้ามากกว่านี้ แต่ย้ำต้องไม่กระทบการคืนภาษีบุคคลธรรมดา เหตุช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว
วันที่ 30 มีนาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังได้สั่งการให้กรมสรรพากรเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้ที่ต้องดำเนินการในหลายด้าน อาทิ การตรวจการเสียภาษีของผู้ประกอบการรายใหญ่ ได้ให้กรมสรรมพากรปรับวิธีการตรวจใหม่โดยให้รวมกลุ่มบริษัทลูกทั้งหมดเป็นกลุ่มเดียวกับบริษัท แม่ เพื่อตรวจดูการทำธุรกรรมระหว่างกันว่ามีการถ่ายโอนรายได้หรือสร้างรายจ่าย เพื่อให้การเสียภาษีน้อยลงหรือไม่ ซึ่งแต่เดิมมีการตรวจสอบเฉพาะผู้เสียภาษีรายใหญ่เท่านั้น จึงตรวจไม่พบการกระทำดังกล่าว
ในส่วนการยื่นเสียภาษีบุคคลธรรมดา กรมสรรพากรได้ร่วมมือกับทางกรมบัญชีกลางให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการเสียภาษีของข้าราชการ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าข้าราชการหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ต่ำ และไม่ยอมยื่นแบบเสียภาษีสิ้นปี เพราะไม่ต้องการจ่ายภาษีเพิ่ม ซึ่งที่ผ่านมามีข้าราชการจำนวนมากทีเดียวที่ไม่ยอมยื่นแบบเสียภาษีดังกล่าว
พร้อมกันนี้การเสียภาษีบุคคลธรรมดาในส่วนของเอกชน กระทรวงการคลังได้ให้กรมสรรพากรเข้าไปตรวจสอบการเสียภาษีให้รัดกุมและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อไม่ให้การเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าหมายไปมากกว่านี้ โดยการตรวจสอบจะต้องไม่กระทบการคืนภาษีบุคคลธรรมดาให้ล่าช้าลงไป เพราะวงเงินจากการคืนภาษีนั้น มีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคของประชาชนให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในการฟื้นตัวเร็วขึ้นอีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
