พล.อ. ประยุทธ์ ชะลอขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ( VAT) หันไปเก็บภาษีที่ดินแทน ขณะที่การคลังเล็งขยับราคาบ้านที่ได้รับยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็น 1.5 ล้านบาท บอกเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้มีรายได้น้อย
วันนี้ (10 มีนาคม 2558) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมเก็บภาษีที่ดิน ว่า รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะประเทศต้องการลงทุน ซึ่งหากไม่เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รัฐบาลก็จำเป็นต้องพิจารณาปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่ปัจจุบันจัดเก็บในอัตรา 7% แต่อาจไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หากสามารถจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้
ด้าน นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงแผนปฏิรูปภาษีต่อที่ประชุม ซึ่งมีความเห็นชอบร่วมกันเกี่ยวกับอัตราการจัดเก็บจริงของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรจัดเก็บ 0.05% จากเพดานกำหนดไว้ที่ 0.25% ภาษีสำหรับที่อยู่อาศัย อัตราจัดเก็บจริง 0.1% จากเพดานจัดเก็บ 0.5% ที่ดินเพื่อการพาณิชย์จัดเก็บ 0.5% จากเพดานกำหนด 2% และที่ดินรกร้างว่างเปล่า 0.5% จากเพดานกำหนดไว้ 2%
ทั้งนี้ ทางกระทรวงการคลังเห็นว่าควรปรับเพดานราคาบ้านที่ได้รับการยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างขึ้นด้วย รวมทั้งที่ดินของวัด มูลนิธิ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และที่ดินของประชาชนที่ติดภาระจำยอม เช่น ถูกไปใช้บริการสาธารณะ อย่างการสร้างถนนให้ส่วนรวมใช้ประโยชน์ ไม่ต้องเสียภาษีเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้มีรายได้น้อย เบื้องต้นจะมีการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จากเดิมกำหนดให้ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นมูลค่า 1.5 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี และกรณีเป็นเจ้าของมากกว่า 1 แห่ง ให้เสียเพียง 1 แห่ง และกรณีบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่ต้องเสียภาษี 3,000 บาท หักค่าลดหย่อนได้ 50% เหลือ 1,500 บาท แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะปรับเป็น 4-5 ล้านบาท เพื่อบรรเทาภาระภาษีให้กับประชาชน โดยการปรับหลักเกณฑ์ในการยกเว้น อาจทำให้การจัดเก็บรายได้ลดลงไปบ้าง ส่วนรายได้จากการภาษีทั้งหมดจะส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สำหรับที่ดินรกร้างว่างเปล่ากำหนดอัตราจัดเก็บในขั้นแรก คือ 0.5% หลังจากนั้นจะเพิ่มอีก 1 เท่าทุก 3 ปี แต่สูงสุดต้องไม่เกิน 2% ตามเพดานที่กำหนดไว้ โดยกระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า จากนั้นจะเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาและลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่า จะสร้างรายได้เข้ารัฐประมาณ 2 แสนล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันจัดเก็บภาษีโรงเรือนได้ประมาณ 25,000 ล้านบาท
ติดตามข่าว ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทั้งหมด คลิกเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
