รัฐบาลเตรียมอนุมัติอัดฉีดเงินเพิ่มกองทุนหมู่บ้านรอบ 3 อีก 7 หมื่นล้าน ลดปัญหาความยากจน-ช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ
วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2558) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังเร่งพิจารณามาตรการแก้ปัญหาความยากจนเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ โดยเฉพาะการเติมเงินให้กองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศกว่า 70,000 แห่ง เป็นเงินประมาณกว่า 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีเงินหมุนเวียนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้
ทั้งนี้ที่ผ่านมาการเติมเงินให้กับกองทุนหมู่บ้าน เริ่มจากกองทุนหมู่บ้านที่มีผลการดำเนินการที่ดีได้รับเงินเพิ่มทุนรอบที่ 3 ไปแล้วประมาณกว่า 50,000 แห่ง ในส่วนนี้ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะร่วมลงขันกันแห่งละ 2 หมื่นล้านบาท รวมเป็นเงิน 4 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับกองทุนหมู่บ้าน เพื่อให้ไปใช้สำหรับดำเนินกิจการต่าง ๆ ของหมู่บ้าน โดยรัฐบาลจะเป็นผู้ชดเชยดอกเบี้ยให้กับธนาคารทั้งสองเอง
ส่วนกองทุนหมู่บ้านอีกประมาณกว่า 25,000 แห่ง ที่ยังไม่ได้เงินเพิ่มทุนรอบที่ 3 ส่วนนี้กำลังปรับผลการดำเนินงานจนมาอยู่ในขั้นที่ดีแล้ว ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการเพิ่มเงินทุนรอบ 3 ให้ทันที เพราะมีเงินที่สำรองไว้อยู่แล้วตั้งแต่งบประมาณปี 2556 รวมถึงกองทุนหมู่บ้านที่เหลืออีกประมาณ 7,000 แห่ง ที่ผลการดำเนินการยังต่ำกว่ามาตรฐาน ก็จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ได้รับเงินเพิ่มทุนในรอบที่ 3 โดยเร็ว
สำหรับการเพิ่มเงินอัดฉีดผ่านกองทุนหมู่บ้าน ถือเป็นมาตรการสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจนของรัฐบาล เพราะทำให้เงินแพร่สะพัดไปทั่วประเทศ และถึงมือผู้ที่มีรายได้น้อยได้ไปประกอบอาชีพหรือลงทุน ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้
นอกจากนี้จะเสนอมาตรการแก้จนเป็นแบบแพ็กเกจให้ ครม. พิจารณา ซึ่งในมาตรการส่วนอื่น ๆ อยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดเหมือนกับมาตรการการเติมเงินให้กองทุนหมู่บ้าน
ด้านนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า มาตรการแก้ปัญหาความยากจนที่กระทรวงการคลังพิจารณาอยู่นั้น เป็นคนละส่วนของทีม คสช. โดยในส่วนของกระทรวงการคลังคาดว่าจะได้ข้อสรุปเสนอให้ ครม. พิจารณาภายในต้นเดือนมีนาคม 2558
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
