ธ.ก.ส. ลงนามปล่อยกู้ อ.ส.ย. 6 พันล้านบาท มุ่งพยุงราคายาง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมธ.ก.ส. ลงนามปล่อยกู้ อ.ส.ย. 6 พันล้านบาท ระยะเวลา 18 เดือน หวังพยุงราคายาง หลังเผชิญปัญหาราคายางตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
วานนี้ (30 ตุลาคม 2557) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือปล่อยสินเชื่อให้กับองค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) วงเงิน 6 พันล้านบาท โดยมี นายประเดิมชัย จันทน์เสนะ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. และ นายชนะชัย เปล่งศิริวัธน์ ผู้อำนวยการ อ.ส.ย. เป็นผู้ลงนาม รวมทั้งมี นายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติแนวทางการบริหารจัดการยางพาราขององค์การสวนยาง ซึ่งมีโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางพารา โดยให้ อ.ส.ย. กู้เงินจาก ธ.ก.ส. เพื่อรับซื้อยางในตลาดช่วงที่ราคายางตกต่ำ ในวงเงินสินเชื่อ 6 พันล้านบาท ระยะเวลา 18 เดือน โดยรัฐบาลจะชดเชยต้นทุนเงินให้ ธ.ก.ส. ในอัตรา FDR+1 และกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินที่ ธ.ก.ส. จ่ายทั้งจำนวน พร้อมทั้งให้ ธ.ก.ส. แยกบัญชีออกจากการดำเนินงานปกติเป็นการดำเนินงานตามนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA)
นายประเดิมชัย กล่าวว่า สถานการณ์ราคายางพาราในฤดูการผลิตปี 2557/2558 ราคาต่ำลงอย่างต่อเนื่องทั้งภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ ราคายางแผ่นดิบซึ่งอยู่ที่ 70 บาทต่อกิโลกรัมในช่วงต้นปี 2557 กลับลดต่ำลงเหลือ 46 บาทต่อกิโลกรัม ในวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา อีกทั้งในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีฝนตกหนัก ทำให้เกษตรกรไม่สามารถกรีดยางพาราได้ มีผลผลิตสู่ตลาดน้อย ราคายางลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และสต็อกก็ไม่จำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับความต้องการยาพารางจากตลาด
ทั้งนี้เพื่อสร้างกลไกเพิ่มเติมรักษาความมีเสถียรภาพของราคายาง จึงได้ให้กองทุนเข้าซื้อและขายยางทั้งในตลาดซื้อขายจริงและตลาดล่วงหน้า เพื่อลดความผันผวนของราคายาง โดยกองทุนจะเข้าดำเนินการซื้อ-ขายยางแผ่นรมควันอัดก้อน ยางแท่ง STR 20 และยางก้อนถ้วย ผ่านกลไกตลาดการซื้อขายจริง (Spot Market) ตลาดข้อตกลงส่งมอบจริง (Forward Market) ของตลาดกลางยางพาราของแต่ละจังหวัด และจะมีการบริหารจัดการสต็อกแบบหมุนเวียน โดยใช้แนวทาง Buffer Fund เพื่อเป็นมูลภัณฑ์กนชนรักษาเสถียรภาพราคายางไม่ให้ราคายางเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนเกินไป นอกจากนั้นยังซื้อขายและบริหารสต็อกแบบหมุนเวียน จำนวน 2000,000 ตัน โดยเริ่มจากเดือนตุลาคม 2557 ถึงเดือนมีนาคม 2558
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
