มีสินค้าเพื่อขาย 20 บาทขึ้นไป ต้องจดทะเบียนพาณิชย์

มีสินค้าเพื่อขาย 20 บาทขึ้นไป ต้องจดทะเบียนพาณิชย์

          “เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเขียนถึงขายของบนอินเทอร์เน็ตไม่จดทะเบียน = ขายตรง ไปก็มีกองทัพคำถามประดังประเดเข้ามา บ้างก็แชร์ไปให้ความรู้ บ้างก็แชร์ด่ากฎหมาย ซึ่งตามจริงกฎหมายมันก็เขียนไว้นานแล้วอย่างพระราชบัญญัติขายตรงและการตลาดแบบตรงก็เขียนไว้ ๑๒ ปีแล้ว ไม่ได้เพิ่งเขียนเร็ว ๆ นี้ที่ไหน เพียงแค่ทั้งรัฐและเราละเลยไม่ให้ความรู้และไม่ศึกษามันให้ดี

          อาทิตย์นี้ก็จะเขียนถึง "การจดทะเบียนพาณิชย์" ซึ่งเป็นต้นตอและสามารถตอบคำถามทั้งหมดที่ถามเข้ามาว่าอันนั้นต้องจดไหมอันนี้ต้องจดหรือเปล่า ? เอาเป็นว่าอ่านเอาก็แล้วกัน (ยาวหน่อย)”

          กิจการที่มีลักษณะนี้ "ต้องจดทะเบียนพานิชย์" ตามมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. ๒๔๙๙ ระบุไว้ว่า

          (๑) การซื้อ การขาย การขายทอดตลาด การแลกเปลี่ยน

          (๒) การให้เช่า การให้เช่าซื้อ

          (๓) การเป็นนายหน้าหรือตัวแทนค้าต่าง

          (๔) การขนส่ง

          (๕) การหัตถกรรม การอุตสาหกรรม

          (๖) การรับจ้างทำของ

          (๗) การให้กู้ยืมเงิน การรับจำนำ การรับจำนอง

          (๘) การคลังสินค้า

          (๙) การรับแลกเปลี่ยน หรือซื้อขายเงินตราต่างประเทศ การซื้อ หรือขายตั๋วเงิน การธนาคาร การเครดิตฟองซิเอร์ การโพยก๊วน

          (๑๐) การรับประกันภัย

          (๑๑) กิจการอื่นซึ่งกำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา

          สรุปก็คือหากมีสินค้าที่ขายไม่ว่าจะกี่ชิ้นกี่อย่างก็ตาม ขายเป็นเงินตั้งแต่ ๒๐ บาทขึ้นไป หรือมีสะสมเพื่อขายไว้ตั้งแต่ ๕๐๐ บาทขึ้นไป ต้องไปจดทะเบียนพานิชย์ (ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ให้ผู้ประกอบพาณิชยกิจต้องจดทะเบียนพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๓)

 

          "อย่างนี้ก็โดนกันหมดล่ะสิ" คงมีคนอุทาน สบถในใจ ตอบเลยว่าไม่ใช่แค่เกือบทั้งหมด กฎหมายมันก็มีข้อยกเว้นให้เหมือนกันตามมาตรา ๗ ของพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. ๒๔๙๙ ระบุไว้ว่า

          (๑) การค้าเร่ การค้าแผงลอย

          (๒) พาณิชยกิจเพื่อการบำรุงศาสนาหรือเพื่อการกุศล

          (๓) พาณิชยกิจของนิติบุคคลซึ่งได้มีพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งขึ้น

          (๔) พาณิชยกิจของกระทรวง ทบวง กรม

          (๕) พาณิชยกิจของมูลนิธิ สมาคม สหกรณ์

          (๖) พาณิชยกิจซึ่งรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

          พวกนี้ไม่ต้องไปจดทะเบียนพาณิชย์ เห็นช่องหรือยัง ? ถ้าไม่อยากจดจงหาบของขาย ปูเสื่อแบกับดินตามที่ต่าง ๆ ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ไม่อยากไปลงทะเบียน

          สำหรับผู้ที่ไม่ไปลงทะเบียนพาณิชย์มีโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาทและปรับเพิ่มอีกวันละไม่เกิน ๑๐๐ บาทจนกว่าจะปฏิบัติตาม (มาตรา ๑๗ พระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. ๒๔๙๙)


          ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเยอะไหม ?

          (๑) ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนพาณิชย์ ๕๐ บาท

          (๒) ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการ ครั้งละ ๒๐ บาท

          (๓) ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเลิกประกอบพาณิชยกิจ ๒๐ บาท

          (๔) ค่าธรรมเนียม ขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบแทนใบทะเบียนพาณิชย์ ฉบับละ ๓๐ บาท

          (๕) ค่าธรรมเนียมขอตรวจดูเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนพาณิชย์ของผู้ประกอบพาณิชยกิจรายหนึ่ง ครั้งละ ๒๐ บาท

          (๖) ค่าธรรมเนียมขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่คัดสำเนาและรับรองสำเนาเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนพาณิชย์ ของผู้ประกอบพาณิชยกิจรายหนึ่ง ฉบับละ ๓๐ บาท

          ค่าใช้จ่าย "หลักสิบ" แพงไหมล่ะ ?
         

          แบบฟอร์มต่างๆของการลงทะเบียนพานิชย์ : http://www.dbd.go.th



          ในความจริงรายละเอียดยิบย่อยยังมีอีกเยอะทั้งประกาศกระทรวงฉบับต่าง ๆ อีก หากคิดจะทำธุรกิจ ค้าขาย คุณต้องหาข้อมูลให้ครบถ้วนรอบด้านทั้งความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ต้นทุน กำไรที่คาดหวัง และอย่าลืมกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เห็นมีคนบ่นว่ากฎหมายไม่ส่งเสริมการค้าขายเสรีเลย

          "พ่อคุณ แม่คุณเอ๊ย !! เสรีคือการควบคุมน้อยที่สุด ลดเงื่อนไขทางการค้าไม่ใช่ไม่ควบคุมปล่อยให้ขายอะไรตามใจก็ได้ไม่ว่าประเทศไหนเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ" ลองยกตัวอย่างประเทศที่ไม่จัดระเบียบมาให้ @๒๗๗ ประดับความรู้บ้างเถอะ // @๒๗๗