คลังผลักดันกฎหมายทวงถามหนี้ เตรียมตั้งนาโนไฟแนนซ์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
คลัง ผลักดันกฎหมายทวงถามหนี้ ชี้คนทวงหนี้ต้องขึ้นทะเบียน ห้ามใช้ความรุนแรงต่อลูกหนี้ เตรียมตั้งนาโนไฟแนนซ์ หนุนประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน แก้ไขปัญหาการกู้ยืมนอกระบบ
วันนี้ (19 ตุลาคม 2557) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สศค.ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาหนี้นอกระบบไปยังฝ่ายนโยบายแล้ว โดยเรื่องแรกคือ ร่าง พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. .... ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วาระที่ 2
โดยมีสาระสำคัญคือ ผู้ที่จะทำธุรกิจทวงถามหนี้ต้องมาขึ้นทะเบียนกับกระทรวงการคลัง ซึ่งจะมีข้อกำหนดของการทวงถามหนี้ ได้แก่ ห้ามทวงถามยามวิกาล ห้ามทวงกับญาติ พี่น้อง เพื่อน ห้ามแฟกซ์ไปที่ออฟฟิศในลักษณะประจาน ห้ามข่มขู่หรือใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้ ซึ่งจะมีบทลงโทษของผู้ที่ทำธุรกิจทวงถามหนี้ตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือนจนถึงปรับและจำคุก โดยคาดว่าร่างกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ได้ในเร็ว ๆ นี้ เพราะเป็นกฎหมายเร่งด่วนที่ สนช.ต้องเร่งพิจารณา
นอกจากนี้ สศค. ยังได้หารือกับ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงการจัดตั้งนาโนไฟแนนซ์ ที่จะช่วยสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยก่อนหน้านี้ สศค. เคยเสนอไปยัง คสช. แล้ว และได้รับการเห็นชอบ โดยการจัดตั้งนาโนไฟแนนซ์นั้น ทางกระทรวงการคลังจะให้เอกชนที่สนใจเข้ามาขออนุญาตประกอบกิจการลักษณะนิติบุคคลในรูปแบบบริษัทสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพรายย่อย (บย.) เพื่อปล่อยกู้ให้กับประชาชนทั่วไปในอัตราที่ถูกกว่าเงินกู้นอกระบบ แต่จะสูงกว่าเงินกู้ส่วนบุคคลที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 28% ซึ่งในเบื้องต้น สศค.เสนอไปว่า บย.จะปล่อยเงินกู้ไม่เกิน 1 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 36% แต่ บย.บางแห่งก็อาจจะคิดดอกเบี้ยไม่ถึง 36% อย่างไรก็ตาม คงต้องขึ้นอยู่กับนายสมหมายว่าจะเห็นด้วยตามนี้หรือไม่
นายกฤษฎา ยังกล่าวว่า การจัดตั้งนาโนไฟแนนซ์นั้น สามารถใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการออกประกาศกระทรวงก็สามารถจัดตั้งได้เลย ขณะนี้กำลังดูรายละเอียดให้รอบคอบก่อนที่จะมีการประกาศ โดยคาดว่าน่าจะมีการจัดตั้งได้ภายในปี 2557 นี้ และหาก พ.ร.บ. การทวงถามหนี้สามารถนำมาบังคับใช้ได้พร้อมกันในปีนี้ ก็จะช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้มาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
