เปิด 5 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขีดเส้นภายใน 3 เดือน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  ครอบครัวข่าว 3

          ครม. มีมติออก 5 มาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 เดือน ด้วยงบประมาณกว่า  2.9 แสนล้าน พบหากทุจริตลงโทษทันที

          เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เตรียมออก 5 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 เดือน เพื่อก่อให้เกิดการสร้างงานทั่วประเทศ โดยจะใช้งบประมาณกว่า 2.9 แสนล้านบาท อีกทั้งยังจะมีการตั้งรองนายกรัฐมนตรี คุมเขตจังหวัดในการป้องกันการทุจริต หากพบความผิดก็จะมีการสั่งลงโทษทันที

ทั้งนี้ 5 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบด้วย

       1. อนุญาตให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม เร่งเซ็นสัญญาการจ้างงานที่ค้างตั้งแต่งบประมาณปี 2557 อันเป็นงบค้างกว่า 142,000 บาท

       2. อนุญาตให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม เร่งเซ็นสัญญาการจ้างงานในงบลงทุนปี 2558 จำนวน 129,000 ล้านบาท และให้ดำเนินการในเรื่องนี้ให้เสร็จใน 3 เดือน คาดว่าอาจจะมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณร้อยละ 30-40

       3. งบประมาณไทยเข้มแข็ง ที่เหลืออยู่ 15,000 ล้านบาท และงบกลางปี 2555-2557 จำนวน 7,800 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 23,000 ล้านบาท จะนำไปซ่อมโรงเรียน บ้านพักข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข และบ้านพักข้าราชการกระทรวงกลาโหม

       4. อนุญาตให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม จัดทำรายละเอียดโครงการ เพื่อมาเบิกงบจ่ายกลางปี  2548-2556 จำนวน 24,000 ล้านบาท

       5.  ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เบิกเงินจ่ายช่วยเหลือชาวนาจำนวนกว่า 40,000 ล้านบาท สำหรับชาวนาที่มีที่นาไม่เกิน 15 ไร่ ไร่ละ 1,000 บาท แต่หากเกิน 15 ไร่ ก็จะช่วยเหลือเพียง 15 ไร่ โดยจะมีชาวนากว่า 3.4 ล้านครอบครัวที่รอการช่วยเหลือ และจะเบิกจ่ายงบประมาณนี้ในวันที่ 20 ตุลาคม 2557

          นอกจากนี้  พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ยังกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และจะมีการนำมาตรการทางภาษีมาใช้ โดยจะเน้นการซ่อมสร้าง ส่วนตัวเลขการส่งออกของไทยที่ต่ำที่สุดในรอบ 32 เดือนนั้น เกิดจากกำลังซื้อที่ลดน้อยถอยลง โดยเฉพาะสถานการณ์โลกที่มีการสู้รบ อีกทั้งยังมีปัญหาการขยายตลาด และการเพิ่มมูลค่าของสินค้า ทำให้ไม่สามารถตอบได้ว่า ตัวเลขจีดีพีในปีนี้จะดีขึ้นหลังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะมีการตรวจสอบการทุจริต โดยให้รองนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบในเขตจังหวัด หากพบความผิดจะมีการลงโทษทันที



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก